เมนู

9. พาลบัณฑิตสูตร



[467] ข้าพเจ้าได้สดับมาอย่างนี้:-
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ที่ พระวิหารเชตวัน อาราม
ของอนาถบิณฑิกเศรษฐี กรุงสาวัตถี สมัยนั้นแล พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัส
เรียกภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย. ภิกษุเหล่านั้น ทูลรับพระดำรัสแล้ว.
[468] พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสดังนี้ว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
ลักษณะเครื่องหมาย เครื่องอ้าง ว่าเป็นพาลของคนพาลนี้มี 3 อย่าง 3 อย่าง
เป็นไฉน. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย คนพาลในโลกนี้มักคิดความคิดที่ชั่ว มักพูด
คำพูดทีชั่ว มักทำการทำที่ชั่ว ถ้าคนพาลจักไม่เป็นผู้คิดความคิดที่ชั่ว พูด
คำพูดที่ชั่ว และทำการทำที่ชั่ว บัณฑิตพวกไหนจะพึงรู้จักเขาได้ว่า ผู้นี้เป็น
คนพาล เป็นอสัตบุรุษ เพราะคนพาลมักคิดความคิดที่ชั่ว มักพูดคำพูดที่ชั่ว
และมักทำการทำที่ชั่ว ฉะนั้น พวกบัณฑิตจึงรู้ได้ว่า นี้เป็นคนพาล เป็น
อสัตบุรุษ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย คนพาลนั้นนั่นแล ย่อมเสวยทุกข์โทมนัส
3 อย่างในปัจจุบัน.
[469] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ถ้าคนพาลนั่งในสภาก็ดี ริมถนนรถก็ดี
ริมทางสามแพร่งก็ดี ชนในที่นั้น ๆ จะพูดถ้อยคำที่พอเหมาะพอสมแก่เขา ถ้า
คนพาลมักเป็นผู้ทำชีวิตสัตว์ให้ตกล่วง มักถือเอาสิ่งของที่เจ้าของมิได้ให้ มัก
ประพฤติผิดในกาม มักพูดเท็จ มีปกติตั้งอยู่ในความประมาทเพราะดื่มน้ำเมา
คือสุราและเมรัย ในเรื่องที่ชนพูดถ้อยคำที่พอเหมาะพอสมแก่เขานั้น แล
คนพาลจะมีความรู้สึกอย่างนี้ว่า สภาพเหล่านั้นมีอยู่ในเรา และเราก็ปรากฏใน
สภาพเหล่านั้นด้วย ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย คนพาลย่อมเสวยทุกข์ โทมนัสข้อ
ที่หนึ่งนี้ในปัจจุบัน.

ว่าด้วยกรรมกรณ์ 26 อย่าง


[470] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ประการอื่นยังมีอีก คนพาลเห็นราชา
ทั้งหลายจับโจรผู้ประพฤติผิดมาแล้ว สั่งลงกรรมกรณ์ต่างชนิด คือ
1. โบยด้วยแส้
2. โบยด้วยหวาย
3. ตีด้วยตะบองสั้น
4. ตัดมือ
5. ตัดเท้า
6. ตัดทั้งมือทั้งเท้า
7. ตัดหู
8. ตัดจมูก
9. ตัดทั้งหูทั้งจมูก
10. หม้อเคี่ยวน้ำส้ม
11. ขอดสังข์
12. ปากราหู
13. มาลัยไฟ
14. คบมือ
15. ริ้วส่าย
16. นุ่งเปลือกไม้
17. ยืนกวาง
18. เกี่ยวเหยื่อเบ็ด
19. เหรียญกษาปณ์
20. แปรงแสบ